tag:blogger.com,1999:blog-74118400549147016662024-03-05T12:43:30.690-08:00พระเหรียญแบบทรงกลมUnknownnoreply@blogger.comBlogger1125tag:blogger.com,1999:blog-7411840054914701666.post-35437502820172697832012-08-16T07:41:00.001-07:002012-08-16T07:41:43.133-07:00พระเหรียญแบบทรงกลม<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUWSaHKQgqQ3OC4EDCx41-_8XPzhqRPDtnInRMgdhs2Xh8ZvJHLpsibabb_Riqtcypk8cI3oDH32L1hr-4cfdUX4uU_L1zkz6AORyd-7XE6w6qeFvs-zYx1pxhyCs2tzBNSPwV4Jce-SM/s1600/%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%8C.jpg" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUWSaHKQgqQ3OC4EDCx41-_8XPzhqRPDtnInRMgdhs2Xh8ZvJHLpsibabb_Riqtcypk8cI3oDH32L1hr-4cfdUX4uU_L1zkz6AORyd-7XE6w6qeFvs-zYx1pxhyCs2tzBNSPwV4Jce-SM/s1600/%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%8C.jpg" /></a></div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
พระที่บ้าน เก็บไว้นานแล้ว บางองค์ไปทำบุญ ท่านให้มา<br />
บางองค์ญาติผู้ใหญ่ให้มาเลยเอามาโชว์ให้ดู......<br />
<br />
<div class="element editable-text" contenteditable="true" id="599865130613226449" style="text-align: left;">
ผมชอบพระ เพราะพระมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน </div>
<div class="element editable-text" contenteditable="true" id="599865130613226449" style="text-align: left;">
<br /></div>
<h3 class="element editable-text" contenteditable="true" id="874266163324014737" style="background-color: yellow; color: blue; text-align: left;">
ข้อมูลนี้ก๊ดีเหมือนกันครับ</h3>
<div class="element editable-text" contenteditable="true" id="599865130613226449" style="text-align: left;">
นักโบราณคดีได้ทำการแบ่งแยกพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยออกเป็น 5 หมวด <br />
ตามลักษณะที่ค้นพบ ดังนี้คือ <br />
1.
หมวดใหญ่ มีลักษณะที่สำคัญที่ปรากฏพอประมวลได้คือ พระพักตร์เป็นรูปไข่
พระรัศมีเป็นแบบเปลวเพลิง ขมวดพระเกสาเล็กแหลม พระขนงโก่ง
บางครั้งเป็นจุดแหลมกลางพระนลาฏ พระนาสิกงุ้ม ไม่มีไรพระศก
พระโอษฐ์บางเล็ก มีปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ไม่เสมอกัน
พระหนุเป็นปมมีเปลวชายจีวรยาวถึงพระนาภีทำเป็นลายเขี้ยวตะขาบ
มีรอยขีดบนพระศอ ไหวง่าย งามสง่า
ฐานเป็นหน้ากระดานเรียบไม่มีบัวรองรับ มักนั่งขัดสมาธิราบ<br />
2.
หมวดกำแพงเพชร มีลักษณะโดยทั่วไปเหมือนในหมวดใหญ่
แต่มีลักษณะของวงพระพักตร์ตอนบนจะกว้างกว่าตอนล่างมากอย่างสังเกตเห็นได้ชัด
พบที่จังหวัดกำแพงเพชร<br />
3. หมวดพระพุทธชินราช
มีลักษณะที่สำคัญที่ปรากฏพอประมวลได้คือ พระพักตร์รูปไข่
มีเปลวบนยอดพระเกตุค่อนข้างสูงกว่าหมวดใหญ่มาก พระพักตร์ค่อนข้างกลม
นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน บางครั้งมีฐานบัวรองด้วย <br />
4.
หมวดพิษณุโลกชั้นหลัง มีลักษณะทรวดทรงยาว ดูไม่มีชีวิตจิตใจ
จีวรมีลักษณะแข็ง ชายจีวรมักทำเป็นรองอ ๆ เหมือนกับขมวดม้วนของชายผ้า
ส่วนใหญ่มักทำเป็นพระยืนสร้างขึ้นหลังจากที่สุโขทัยตกเป็นเมืองขึ้น
ของอยุธยาแล้ว <br />
5. หมวดเบ็ดเตล็ดหรือหมวดวัดตะกวน
หมวดนี้มีลักษณะเป็นแบบผสมคือ การผสมระหว่างศิลปะแบบเชียงแสน แบบลังกา
และแบบสุโขทัยเข้าด้วยกัน มีลักษณะที่สำคัญที่ปรากฏพอประมวลได้คือ
พระพักตร์กลม มีรัศมีแบบลังกา บางองค์มีชายผ้าสังฆาฏิสั้น
พระนลาฏแคบจากลักษณะของพระพุทธรูปดังกล่าวข้างต้นสามารถประมวลสรุปเป็น
ลักษณะที่สำคัญ โดยภาพรวมดังนี้คือ พระพักตร์เป็นรูปไข่
พระเกตุมาลาเป็นเปลวรัศมี ขมวดพระเกสาเล็กเป็นวงก้นหอย พระกรรณยาว
พระขนงโก่ง พระหนุเป็นปม พระนาสิกงุ้ม พระโอษฐ์เล็กและบาง
พระโอษฐ์อมยิ้ม พระอังสาใหญ่ ชายจีวรยาวลงมาถึงพระนาภี
ปลายเป็นเขี้ยวตะขาบ เปลือกพระเนตรอวบอูมมีลักษณะดุจกลีบบัว
ไม่มีไรพระศก ชอบทำปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิราบ
และยังพบพระพุทธรูปปางลีลาอีกด้วย <br />
พระ
พุทธรูปในสมัยสุโขทัย
ถือได้ว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวถึงแม้ว่าจะมีการผสมผสานกันจากศิลปะหลายแหล่ง
แต่ก็สามารถนำมาประยุกต์เป็นศิลปะแบบสุโขทัยอันมีความสวยสดงดงาม อ่อนช้อย
เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในที่สุด
และพระพุทธรูปในสมัยนี้ก็ยังเป็นแม่แบบของการสร้างพระพุทธรูปในสมัยต่อ ๆ
มาอีกด้วย<br />
ที่มา : เรื่อง ชำเลืองมองลักษณะพระพุทธรูปไทยสมัยต่างๆ โดยพระมหาสุรศักดิ์ สุรเมธี วัดอิสาน นครราชสีมา</div>
Unknownnoreply@blogger.com2